Categories
ข่าวบอล

สื่อตีข่าว อาร์เซน่อล วางแผนคว้าตัว ซาฮา 40 ล้านปอนด์

จากรายงานของ The Sun อาร์เซน่อล ไม่ยอมยกเลิกความหวังกับการ เซ็นวีลฟรีด ซาฮา ในหน้าตลาดซื้อขายหน้าร้อนนี้ ปืนใหญ่ อาร์เซน่อล พร้อมที่จะยื่นข้อเสนอมูลค่า 40 ล้านปอนด์สำหรับนักเตะซุปเปอร์สตาร์ของ คริสตัล พาเลซ ที่ได้ตกเป็นเป้าได้รับความสนใจจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากที่ช่วงการค้าแข้งของเขาที่ไม่ได้ใกล้เคียงกับในสมัยที่อยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขาได้กลายเป็นหนึ่งในตัวรุกของพรีเมียร์ลีก เมื่อกลับมาเล่นให้กับ คริสตัล พาเลซ แต่การก้าวขึ้นมาของเขานั้นไม่ใช่เรื่องดีของเหล่าอีเกิ้ลจากที่ได้มีการให้ความสนในตัวนักเตะวัย 26 คนนี้เพิ่มมากขึ้น

ซาฮา ที่มีฤดูกาลที่ดีที่สุดของเขาในขณะที่เป็นนักฟุตบอลชั้นนำ เขาได้ถูก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อดีตสโมสรของเขา รวมถึง ปืนใหญ่ ให้ความสนใจในตลาดหน้าร้อนช่วงนี้ ซาฮา อาจจะแก้ไขหนึ่งในปัญหาใหญ่ที่ อูไน เอเมอรี่ เผชิญมาในช่วงการคุมทีมครั้งแรกของเขาในฐานะผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล ขณะที่ ลากาแซ็ต และ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ทำให้น้ำหนักในเรื่องนี้มีมูลมากขึ้น จากที่พวกเขาขาดปีกธรรมชาติ ซึ่งหมายความว่าแนวรุกของ ปืนใหญ่ ขาดความหนาแน่นของทีมในฤดูกาลนี้ อาร์เซน่อล แสดงให้เห็นถึงความสนใจในตัวนักเตะวัย 26 ปีอย่างจริงจัง และพร้อมที่จะตามล่าเขา จากรายงานของ The Sun ปืนใหญ่ พร้อมที่จะนำเงิน 40 ล้านปอนด์คว้าตัวนักเตะทีมชาติไอวอรี่โคสต์

Categories
ข่าวบอล

วู้ดเวิร์ด รับพลาดเองที่ทุ่มค่าเหนื่อยให้ อเล็กซิส

เอ็ด วู้ดเวิร์ด ผู้บริหารของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมายอมรับว่าเขาทำผิดพลาดอย่างมหันต์ในการเซ็นสัญญากับ อเล็กซิส ซานเชซ และมอบค่าเหนื่อยสูงเป็นสถิติของ พรีเมียร์ลีก ให้กับเจ้าตัวเมื่อเดือนมกราคมปี 2018 ที่ผ่านมา

กองหน้าชาวชิลีเซ็นสัญญาย้ายมาจาก อาร์เซนอล ด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์ เป็นเวลา 4 ปีครึ่ง โดยรับเงินค่าเหนื่อยเบื้องต้น 300,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด โดยจะเพิ่มขึ้นตามเงื่อนไขต่าง ๆ ที่ระบุในสัญญา ซึ่งเมื่อคิดแล้วจะได้มากกว่า 500,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์เลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ซานเชซ ก็ไม่สามารถที่จะตอบแทนความไว้วางใจและโชว์ฟอร์มได้อย่างคุ้มค่าเหนื่อยในระยะเวลาเวลาหนึ่งปีกว่าที่ผ่านมา โดย The Times รายงานว่า เอ็ด วู้ดเวิร์ด ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของสโมสร ปีศาจแดง กล่าวว่าเขารู้สึกเสียใจที่ทำผิดพลาดอย่างมหันต์ในการตัดสินใจเซ็นสัญญากับกองหน้ารายนี้เข้ามาสู่ทีม

โดยนับตั้งแต่ที่เซ็นสัญญาย้ายมาร่วมทีมภายใต้โค้ชคนก่อนอย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ ดาวยิงทีมชาติชิลีลงเล่นให้กับทีมไปแล้ว 42 นัดในทุกรายการและทำได้เพียง 5 ประตูเท่านั้น ในขณะที่ทีม ยูไนเต็ด ยังต้องดิ้นรนเพื่อคว้าโควต้า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ให้ได้หลังจบฤดูกาลนี้ โดยพวกเขายังคงรั้งอยู่ในอันดับ 6 ของตารางหลังจากที่พ่ายอย่างหมดรูปให้กับ เอฟเวอร์ตัน 4-0 ที่ กูดิสันปาร์ค เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

Categories
ข่าวบอล

กิกส์ ฉุนดาวรุ่ง เวลส์ อดโชว์ฝีเท้าในทีมของ ซาร์รี

ไรอัน กิกส์ ผู้จัดการทีมชาติเวลส์ เชื่อว่า อีธาน แอมปาดู ดาวรุ่งของ เชลซี ควรที่จะถุูกปล่อยให้สโมสรอื่นยืมตัว หลังจากที่ไม่สามารถก้าวขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ของ เมาริซิโอ ซาร์รี ได้อย่างสม่ำเสมอในช่วงที่ผ่านมา

ดาวรุ่งวัย 18 ปีถูกดันขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ในสมัยของ อันโตนิโอ คอนเต้ เมื่อเดือนธันวาคม 2017 แต่เมื่อมาถึงยุคของ ซาร์รี นั้นเจ้าตัวไม่สามารถสร้างความประทับใจได้ และถูกส่งลงสนามเพียงแค่ 5 นัดในฟุตบอลถ้วยเท่านั้นในซีซันนี้

ด้วยการมีอาการบาดเจ็บที่หลังทำให้ แอมปาดู ไม่สามารถลงเล่นให้กับ เวลส์ ได้ในเกมที่จะพบกับ ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก และ สโลวาเกีย ซึ่งทำให้ตำนาน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก

“มันน่าผิดหวังนะ อายุของเขาอยู่ระหว่างกลุ่มนักเตะที่มีอายุเท่ากันและทีมชุดใหญ่ หลายครั้งที่เขาเดินทางไปกับทีมชุดใหญ่ แต่เขาไม่ได้โอกาสลงเล่นเลย ซึ่งนั่นมันแทบจะไม่มีประโยชน์อะไรกับตัวนักเตะ”

“เขาได้ลงเล่นใน ยูโรป้าลีก นั่นก็เพราะว่าพรสวรรค์ที่เขามี เห็นได้ชัดว่า ซาร์รี ต้องการให้เขาอยู่กับทีมชุดใหญ่ เขาได้อออกสตาร์ทเป็นตัวจริงไม่มากนักรวมทั้งอาการบาดเจ็บที่มี ซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง เพราะเขาเป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์ที่มหัศจรรย์ และเขาได้แสดงให้เห็นมาแล้วจากการลงเล่นให้กับทีมชาติในช่วง 2-3 เกมที่ผ่านมา”

กิกส์ เห็นว่าการย้ายทีมแบบยืมตัวจะมีประโยชน์จาก แอมปาดู โดยเขากล่าวว่า “มันเป็นกรณีของนักเตะที่อยู่ในสถานการณ์แบบนี้ หรือถ้าเขาเล่นในช่วงพรีซีซันได้ดีเราก็ต้องดันให้เขาขึ้นไปเล่นในทีมชุดใหญ่ เรามีนักเตะที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน นักเตะที่มีพรสวรรค์ซึ่งย้ายออกจากทีมในแบบยืมตัว และพวกเขาก็ได้ประโยชน์จากวิธีนี้”

“แต่ถ้าคุณสามารถก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ เชลซี ได้ นั่นมันจะเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก” นายหใญ่ทีม มังกรแดง กล่าว

กิกส์ ฉุนดาวรุ่ง เวลส์ อดโชว์ฝีเท้าในทีม

Categories
ข่าวบอล

ซาร์รี ลั่นขอพา สิงห์บลู จบท็อปโฟร์ให้ได้

เมาริซิโอ ซาร์รี

เมาริซิโอ ซาร์รี กุนซือของทีม เชลซี ออกเปิดเผยถึงเป้าหมายของเขาในฤดูกาลนี้ว่าต้องการพาทีมผ่านเข้าไปเล่นใน ยูฟาแชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มให้ได้ หลังจากที่ต้องเจอกับความกดดันก่อนหน้านั้น เดอะบลูส์ ก็สามารถฮึดกลับมาเก็บชัยชนะใน พรีเมียร์ลีก ได้ 2 เกมติดต่อกัน โดยการเอาชนะ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ และ ฟูแลม ในเกมล่าสุด ทำให้โอกาสในการเข้าไปเล่นในฟุตบอลถ้วยใหญ่ของยุโรปกลับมาอยู่ในมือของพวกเขาอีกครั้ง

ซาร์รี ให้สัมภาษณ์หลังจบเกมที่เอาชนะทีมเจ้าสัวน้อยด้วยสกอร์ 2-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า “ผมจะมึความสุขมากถ้าเราสามารถจบในอันดับท็อปโฟร์ได้ ผมรู้ว่าเป้าหมายของสโมสรคือการกลับไปเล่นใน ยูฟาแชมเปี้ยนส์ลีก ให้ได้อีกครั้ง ซึ่งผมโชคดีอย่างมากที่ นาโปลี เพราะว่าเราสามารถผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลถ้วยนี้ได้ 3 ครั้งติดต่อกันเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร”

“และไม่ใช่เฉพาะใน พรีเมียร์ลีก เท่านั้น คุณยังต้องเล่นใน เอฟเอคัพ และ ลีกคัพ ทุกเกมมันเป็นเกมที่ยากมาก ซึ่งในฟุตบอล ลีกคัพ เราต้องเจอกับ ลิเวอร์พูล และเล่น 2 นัดกับ สเปอร์ส จากนั้นก็เจอกับ แมนฯ ซิตี้ ในรอบชิงชนะเลิศ ทุก ๆ เกมมันเป็นเรื่องที่แสนสาหัส คุณต้องเสี่ยงหลายอย่างกว่าจะมาถึง ณ จุดนี้ของซีซัน ซึ่งมันเหนื่อยมาก และมันก็เป็นเรื่องของจิตใจมากกว่าร่างกาย” ซาร์รี กล่าว

Categories
ข่าวบอล

10 เกมส์ที่ผู้เล่นคนเดียว ตัดสินเกมส์ได้

อังเดร อาชาวินเพียงคนเดียวเคยยิงลิเวอร์พูลถึง 4 ประตู บางครั้งในเกมส์ฟุตบอล บางครั้งก็ต้องอาศัยทีมเวิร์ค และแท็คติ๊ก ต้องอาศัยปัจจัยหลายๆ อย่างในการเอาชนะคู่แข่ง แต่มีเพียงบางแมตช์ที่ตัดสินโดยผู้เล่นเพียงคนเดียว ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่ามีนักเตะตัวแสบคนไหนบ้าง ที่ตัดสินผลของเกมส์ด้วยตัวเขาเพียงคนเดียว

1.หลุยส์ ซัวเรส  พบ นอริชซิตี้

ไม่รู้ว่านอริชซิตี้ไปทำไรให้หลุยส์ ซัวเรส ขุ่นเคือง เพราะกองหน้าชาวอุรุกวัย ยิงทีมนกขมิ้นไป 11 ประตูจาก 5 เกมส์ โดย 4 ใน 11 ประตูมาจากเกมส์ที่แอนด์ฟิลด์ ในเดือนธันวา ปี 2013 ซัวเรสพี่แกเล่นวอลเลย์ครึ่งสนาม ด้วยเท้าซ้ายเสียบเสาอย่างสวยงาม และต่อมาพี่แกเล่นปั่นฟรีคิกในเกมส์เดียวกันอีก เกมส์นั้นซัวเรสกดไป 4 นับว่าเป็นแฮตทริคที่ 3 ที่ยิงใส่นอริชซิตี้ เรียกง่ายๆ ว่าแฟนนกขมิ้นคงเหม็นหน้าซัวเรสไปพักใหญ่

2.ลิโอเนล เมสซี่  พบ อาร์เซน่อล

กองหลังหลายๆ ทีมมักจะเจอฝันร้ายเสมอ เมื่อเจอนักเตะพรสวรรค์สูงอย่างลิโอเนล เมสซี่ แต่ในเกมส์ UCL นัด 2 หลังจากอาร์เซน่อลเสมอ บาร์ซ่า มา 2-2 ในนัดแรก นัดนี้อาร์เซน่อลต้องชนะเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องยากเมื่ออยู่ในแคมป์นู และเมื่อมีนักเตะต่างดาวอย่างเมสซี่ พี่แกดับฝันอาร์เซน่อลในเกมส์ยุโรป ด้วยการกดไป 4 เม็ดในเกมส์เดียว

3.เซอร์จิโอ กุน อเกวโร่ พบ บาเยิร์นมิวนิค

นานๆจะเจอกันที สำหรับน้องใหม่UCL อย่างแมนเชสเตอร์ซิตี้ ณ ตอนนั้น โคจรมาพบแชมป์บุนเดสลีกา บาเยิร์นมิวนิค ของเป๊ป กวาดิโอล่า ซิตี้ต้องการชัยชนะเพื่อจะเข้ารอบ กุน อเกวโร่ ก็จัดให้พี่แกทำได้ 3 ประตู จากโอกาส ยิงเพียง 3 ครั้งเท่านั้น จบเกมส์ด้วยสกอร์ 3-2 และที่สำคัญเป็นแฮตทริกใส่สุดยอดผู้รักษาประตูแห่งยุคอย่าง มานูเอล นอยเยอร์

4.เจอเมน เดโฟ  พบ วีแกน

สำหรับแฮตทริคในโลกของฟุตบอลนั้นเป็นอะไรที่วิเศษ หรือ 4 ประตูของอาชาวินก็สุดจะวิเศษ แต่ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2009 เดโฟ สมัยอยู่ท็อตแน่มพี่แกเล่นกด ทีมเยือนอย่างวีแกนไป 5 ลูก เกมส์นั้นสเปอร์ถล่มไป 9-1 ยิงกันแบบไม่เกรงอกเกรงใจกันเลย ส่งผลให้เดโฟ เป็นผู้เล่นคนที่ 3 ของพรีเมียร์ลีกที่ยิงได้ 5 ประตูในเกมเดียวต่อจาก อลันเชียร์เรอร์ และแอนดี้ โคล

5.ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ พบ แบล็คเบิร์นโรเวอร์

เกือบ 1 ปี ที่หลังจากเดโฟ เป็นผู้เล่นคนที่ 3 ที่ยิงไป 5 ประตูในเกมส์เดียว เบอร์บาตอฟก็เริ่มเอาอย่าง ในเกมส์ที่แมนยูไนเต็ดถล่ม แบล็คเบิร์นไป 7-1  โดยกองหน้าบัลแกเรียสกอร์ฝืดมา 10 นัด ยิงไม่ได้สักประตู ไม่รู้แกเก็บกดมาจากไหน เบอร์บาตอฟก็ถูกบันทึกให้เป็น 1 ในผู้เล่น ที่ยิง 5 ประตูในเกมส์เดียวจนได้

6.อังเดร อาชาวิน พบ ลิเวอร์พูล

อาชาวินย้ายมาอาร์เซน่อลไม่นานนัก พี่แกก็โชว์ของให้เหล่ากูนเนอร์ดูเป็นขวัญตาทันที เมษายน 2009 ที่แอนด์ฟิลด์ เกมส์นั้นจบด้วย สกอร์ 4-4 โดยสกอร์ฝั่งอาร์เซน่อล เกิดจากเพลย์เมกเกอร์ชาวรัสเซียเพียงคนเดียว จากการแอสซิสของฟาเบรกัส หลังจากที่อาชาวินกดเม็ดที่ 4 พี่แกก็ฉลองประตูด้วยชูมือ 4 นิ้ว และทำท่าจุ๊ปาก ทำเอาเหล่าเดอะค็อปเงียบกริบ ถ้าเกมส์นั้นเป็นชัยชนะของอาร์เซน่อล อาชาวินน่าจะหล่อกว่านี้นะ

7.ลิโอเนล เมสซี่ พบ บาเยอร์ เลเวอร์คูเซ่น

คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรถ้าจะเห็นชื่อเมสซี่อีกครั้ง เพราะพี่แกคือจอมทำลายสถิติ และสร้างสถิตใหม่ๆ เสมอ โดยในเดือนมีนาคมปี 2012 ในเกมส์ UCL เมสซี่เป็นนักเตะคนแรกในเกมส์ยุโรป ที่ยิงเกมส์เดียว 5 ประตู  โดยผลรวมสกอร์ทั้ง 2 นัดบาร์ซ่า อัดถั่วดำเลเวอร์คูเซ่น ไป 10-2 ด้วยกัน

8.โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี พบ เรอัล มาดริด

ก่อนที่เลวานดอฟกี้ จะย้ายมาบาเยิร์น มิวนิคของเป็ป เลวานดอฟสกีได้ถูกจารึกลงในหน้าประวัติศาตร์ของดอร์ทมุนด์ ในเกมส์ UCL ปี 2012/13 ที่พบเรอัล มาดริด กองหน้าชาวโปแลนด์ ได้สร้างปรากฏการที่ทั้งโลกต้องทึ่งในฝีเท้าของเขา ด้วยการกดเรอัล มาดริดไปถึง 4 ประตู โดยเรอัล มาดริดในเกมส์ยุโรปไม่เคยโดนนักเตะคนไหนยิงพวกเขาได้ถึง 4 ประตูในเกมส์เดียวและจากนักเตะคนเดียว

9.โรนัลโด้ พบ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

เกมส์เลกแรก มาดริดชนะ ยูไนเต็ดมาก่อน 3-1 โดยเกมส์ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ทีมของเซอร์อเล็กเฟอร์กูสัน ยังพอมีความหวังที่จะเข้ารอบได้ แต่ก็นั้นแหละ กองหน้าที่ดีที่สุดในโลกยุคนั้นอย่างโรนัลโด้ พี่แกจัดแฮตทริค ไปเบาๆ ถึงโรงละครแห่งความฝันต่อหน้าแฟนๆ ผี ถึงแม้เกมส์นั้นยูไนเต็ดจะชนะก็ตามที แต่ก็ไม่เพียงพอผลรวมสกอร์ จบด้วย 6-4 นับเป็นเกียรติของโรนัลโด้สุดๆ  เพราะเหล่าเรดอาร์มี่ในสนามต่างยืนปรบมือให้กับความเก่งกาจของกองหน้าชาวบราซิลเลี่ยน

โรนัลดิญโญ่ พบ เรอัล มาดริด

10.โรนัลดิญโญ่ พบ เรอัล มาดริด

19 พฤศจิกายน ปี 2005 นอกจากชัยชนะเหนือเรอัลมาดริด ในเกมส์เอล คลาสิคโก้ แล้วสิ่งที่น่าภูมิใจมากๆของบาร์เซโลน่าก็คือ เหล่าแฟนมาดริดนิสต้า ต่างยืนปรบมือชื่นชมในฝีเท้าอันมหัศจรรย์ของโรนัลดิญโญ่ โดยโรนัลดิญโญ่เป็นเพียงนักเตะคนที่ 2 ของบาร์เซโลน่า ที่ได้รับความชื่นชมจากแฟนๆ เรอัลมาดริด โดยคนก่อนหน้านั้นก็คือ เสือเตี้ยดิเอโก้ มาราดอนน่า นั้นเองเกมส์นั้น โรนัลดิญโญ่กดไป 2 ลูก จบเกมส์ 3-0