แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจจะถกเถียงเรื่อการตัดสินเกี่ยวกับจังหวะแฮนด์บอลจนทำให้พวกเขาโดนตีเสมอ สำหรับการกระเด็นตกรอบจากศึกเอฟเอ คัพ แต่ในความเป็นจริงแล้วพวกเขาต่างหากที่ต้องโทษตัวเองที่ไม่สามารถเอาชนะทีมจากเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ได้ตั้งแต่ใน 90 นาที
ทีมของ ราล์ฟ รังนิค มีสิทธิ์ที่จะรู้สึกว่าจังหวะแฮนด์บอลมันน่าขัดใจ แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงกฎแฮนด์บอลในช่วงซัมเมอร์ เมื่อประตูของ แม็ตต์ ครู้กส์ ควรจะถูกริบคืนได้หลังจากที่ ดันแคน วัตมอร์ พักบอลไปโดนมือแบบจัง ๆ ในเขตโทษ
กรรมการตัดสินถือว่าเป็นเหตุการณ์บังเอิญ แต่ใครก็ตามที่นั่งอยู่บนอัฒจันทร์ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อคืนวันศุกร์สามารถมองเห็นได้ว่าบอลไปโดนมือของ วัตมอร์ อย่างเห็นได้ชัดก่อนที่จะส่งบอลให้กับ ครู้กส์ จบสกอร์เข้าไป
แต่ทีมปีศาจแดงควรจะมองไปที่ตัวเองว่าทำไมพวกเขาถึงไม่สามารถเข้าถึงรอบที่ 5 เอฟเอ คัพ ได้ พวกเขาน่าจะปิดเกมได้ตั้งนานแล้วก่อนที่มันจะถึงช่วงต่อเวลาพิเศษและจุดโทษ โดยที่ แอนโธนี่ อีแลงก้า ปีกดาวรุ่งจะพลาดจุดโทษคนสุดท้าย
หากว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไม่พลาดจุดโทษในช่วงครึ่งแรก มันอาจจะเป็นเรื่องที่แตกต่างออกไป เหล่าผู้เล่นของโบโร่จะไม่ได้เฉลิมฉลองร่วมกับแฟนบอล 9,000 คน ที่เดินทางเข้ามาชมเกมนี้แน่นอน ดาวเตะชาวโปรตุกีสยิงจุดโทษหลุดเสาและส่วนใหญ่ในเกมนี้เขาไม่ค่อยสร้างความอันตรายได้มากนัก
ดีน เฮนเดอร์สัน ที่ลงเป็นตัวจริงครั้งแรกภายใต้การคุมทีมของ รังนิค ไม่มีงานหนักอะไรเลยในครึ่งแรก ยูไนเต็ด ครองเกมเป็นส่วนใหญ่แทบจะพับสนามเมื่อเจอกับทีมฝ่ายตรงข้าม ซึ่งในครึ่งแรกเจ้าถิ่นมีโอกาสยิงมากถึง 14 ครั้งเลยทีเดียว และเข้ากรอบไป 6 ครั้ง
การปรากฏตัวครั้งแรกของ ปอล ป็อกบา นับตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนเป็นไปในเชิงบวก และ จาดอน ซานโช่ ก็สร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมแต่มันก็ไม่เพียงพอ ที่จริงแล้ว ซานโช่ มีโอกาสยิงให้เจ้าถิ่นนำตั้งแต่ 2 นาทีแรกแต่เขาปั่นชนคาน บวกกับ โรนัลโด้ ที่พลาดจุดโทษ และ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ยิงเข้าแล้วล้ำหน้า
มันเป็นผลงานก่อนวันเกิดครบรอบ 37 ปีของโรนัลโด้ที่ไม่โสภานัก โดยเฉพาะในเกมที่ปีศาจแดงต้องการประตู พวกเขาทำได้ไม่ดีในครึ่งหลัง พวกเขาไร้ความคิดสร้างสรรค์ แม้เกมรับดูจะดีขึ้นในยุครังนิค แต่เกมรุกกลับไร้ไอเดียในการเข้าทำทั้งที่มีแนวรุกฝีเท้าระดับพระกาฬ
นอกจากจะสร้างปาฏิหาริย์คว้าแชมป์ยุโรปได้ ดูเหมือนว่า ยูไนเต็ด จะจบฤดูกาลโดยไม่มีแชมป์อีกครั้ง พวกเขาอยู่ในช่วงลุ้นท็อปโฟร์ของพรีเมียร์ลีก แต่ตกรอบคาราบาว คัพ และล่าสุดตกรอบเอฟเอ คัพ โอกาสเดียวของพวกเขาสำหรับถ้วยแชมป์คือยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งพวกเขาจะพบกับ แอตเลติโก้ มาดริด ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
เมื่อเริ่มต้นฤดูกาลมันมีการพูดถึงความท้าทายโอกาสลุ้นทุกแชมป์แต่ก็ได้มาถึงจุดที่มีโอกาสลุ้นถ้วยแชมป์เพียงรายการเดียวเท่านั้น แน่นอนว่าพวกเขาไม่ควรตำหนิใครได้เลยนอกจากตัวเองเท่านั้น